การขายสินค้าไปต่างประเทศผ่านทาง Internet ตอนที่ 1
จากการที่ผมได้เคยเปิด Website เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับ การทำธุรกิจส่งออกไปต่างประเทศทาง Internet ปรากฏว่า มีบางท่าน ที่สนใจจะทำธุรกิจส่งสินค้าออกไปต่างประเทศ แต่เริ่มต้นจากศูนย์ จึงได้โทรมาสอบถามข้อมูลเบื้องต้น ผมเห็นว่าน่าจะมีประโยชน์มากกว่า ถ้ามีการเผยแพร่การจัดการ ธุรกิจขายของ on line โดยอาศัย Internet เป็นช่องทางหนึ่งในการธุรกิจของท่าน น่าจะเกิดประโยชน์ในวงกว้าง ผมจึงขอนำเสนอบทความเรื่อง “แนวทางการขายสินค้าไปต่างประเทศผ่านทาง Internet” เพื่อให้ท่านที่สนใจลองนำแนวทางเหล่านี้ไปเป็นแนวทางในการดำเนินงานดูนะครับ
สิ่งแรกในการดำเนินธุรกิจทุกอย่างคือ ”ตลาด” ความคิดนี้อาจสวนทางกับท่านที่มีสินค้าในมือ แล้วคิดว่าสินค้าของตัวเอง จะต้องขายได้อย่างแน่นอน เพราะเป็นสินค้าที่ดีมาก อันนี้อาจเป็นสิ่งที่ถูก แต่ในการเริ่มธุรกิจนั้น ผู้ซื้อเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะลูกค้าที่มาซื้อของก็คือนำเงินมาให้เรา เพื่อแลกกับความพอใจที่เขาได้รับ อันจะทำให้เรามีเงิน สามารถมาดำเนินธุรกิจต่อได้ สินค้าเราดีจริง แต่ถ้าไม่มีคนซื้อ ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ที่จะขายสินค้าตัวนี้ โดยเฉพาะในโลกของ Internet ที่ลูกค้ามีทางเลือก ในการซื้อสินค้ามากมาย โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่มีรสนิยมเฉพาะตัว เฉพาะท้องถิ่น ที่อาจจะไม่ตรงกับสินค้าที่เรามีในมือก็ได้ดังนั้น
สิ่งแรกที่ท่านต้องทำ คือการ Survey ตลาด ลองสำรวจดูว่ามี website ไหนที่ขายสินค้าเหมือนของเราบ้าง โดยการเข้าไปที่ search engine (อันนี้สำคัญมากที่ท่านต้องรู้จัก และคุ้นเคยกับ search engine ให้มาก ๆ เพราะเราต้องใช้บริการบ่อยมาก) ลองเข้าไป key รายการสินค้า ที่เราจะขายดูว่า ในตลาดมีคนทำแบบนี้หรือไม่ มีมากน้อยแค่ไหน แล้วของเรามีความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดอย่างไร เช่นคุณภาพดีกว่า, ใช้งานง่ายกว่าหรือราคาถูกกว่า ทนทานกว่า ลองหาดูครับ ที่สำคัญไม่ควรหาใน website ของคนไทยด้วยกันเพียงอย่างเดียว เพราะบางทีอาจจะไม่ใช่ taste ของคนต่างชาติที่ เป็นลูกค้าหลักของเราต้องการ ดังนั้นท่านอาจจะตีโจทย์ไม่แตกก็ได้ครับ ผมเคยคิดจะขายเทียนให้ชาวต่างชาติแล้วลอง search ดูพบว่าสินค้าของคนไทยจะเน้นเป็นงานฝีมือพวกเทียนที่มีลวดลายไทย ๆ รูปสัตว์ไทยเช่นช้าง หรือไม่ก็เป็นดอกไม้ต่างๆ แต่พอไป search ของต่างประเทศกับเป็นเทียน fancy ประเภท รูปทรงมนุษย์ต่างดาว หรือต้นมะพร้าวไป ซึ่งต้องอยู่ในดุลยพินิจของท่านว่าท่านจะขายความเป็นไทย หรือต้องการทำเพื่อรองรับ taste ของคนต่างชาติที่ไม่เหมือนเราเลย อันนี้ทำให้การเข้าไปดู website อื่น ที่ทำธุรกิจเหมือเรามีประโยชน์มาก
ผลที่ได้ออกมาจากการสำรวจตลาดเบื้องต้น จะทำให้เราได้ทราบข้อมูล เรื่องคู่แข่งในตลาดที่เรากำลังจะเข้า รสนิยมหรือ Taste ของผู้ซื้อสินค้า ส่งผลให้เราสามารถ positioning ตัวของเราได้ว่า เราจะอยู่ตรงไหนของตลาดนี้เพื่อที่เราจะได้กำหนดกลยุทธ์ของสินค้าเราได้ถูกครับ แต่ยังไม่หมดนะครับ เมื่อเรากำหนด positioning ของเราได้แล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อก็คือ เราต้องกำหนดว่าเราจะขายสินค้า ไปยังประเทศไหนบ้างในโลก จริงอยู่ที่เราได้ยินเสมอว่า Internet สามารถขายของได้ทั้งโลก แต่ผมไม่เชื่อหรอกว่าทุก website จะทำอย่างนั้นได้ โดยเฉพาะ SMEs ที่พึ่งเริ่มทำธุรกิจ เพราะเป็นการเสี่ยงมาก สำหรับธุรกิจที่พึ่งเริ่มตั้งไข่ ที่จะขายของให้ทุกประเทศทั่วโลก อย่าลืมนะครับคนประเทศต่างๆ ก็เหมือนกับคนไทยมีทั้งคนดีและคนไม่ดี แต่เราควรเลือกประเทศ ที่มีความเสี่ยงในการถูกโกงให้น้อยที่สุดไว้ก่อน (แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสถูกโกงนะครับ ต้องระวังตัวเองให้มากที่สุด) ส่วนใหญ่ประเทศที่คนไทยเลือกขายสินค้าก็มีหลัก ๆคือ
USA
กลุ่มประเทศยุโรป (EU)
ญี่ปุ่น
กลุ่มประเทศยุโรป (EU)
ญี่ปุ่น
แต่ประเทศที่น่ามีอนาคตไกลอีกสองประเทศ คือออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เพราะมีคนไทยอยู่มาก
ทั้งสามกลุ่มหลัก มีรสนิยมในการซื้อสินค้าไม่เหมือนกัน อันนี้คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ นอกเหนือจากการ search คือนิตยสารแนวส่งเสริม SMEs ต่าง ๆ ที่จะมีบทความ แนะนำการส่งสินค้าไปขายประเทศเหล่านี้อยู่แล้ว เช่นนิตยสาร Make Money ฉบับเดือนกรกฎาคม 2547 ก็มีเรื่องเหล่านี้อยู่ครับ หรือจะลองเข้า website ของกรมส่งเสริมการส่งออกก็ได้ครับ แต่ถ้าท่านอ่านบทความนี้ แล้วอยากทราบข้อมูลเบื้องต้นผมแนะนำพอเป็น Idea ดังนี้ครับ
USA เนื่องจากความที่เป็นประเทศที่ใหญ่ มีประชากรหลากหลายเชื้อชาติ ดังนั้นความต้องการ จะมีเป็นตลาดย่อย ๆ จำนวนมาก ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้ คือการเจาะตลาดในลักษณะเล็ก ๆ แบบ niche market เลือกกลุ่มที่เราสนใจ และประเมินว่ามีศักยภาพมาก แล้วเข้าไปเจาะเป็นกลุ่ม ๆไป แต่ถ้าดูเฉพาะ พื้นฐานพฤติกรรมของคนในอเมริกา มองได้ว่าคนในประเทศนี้ ชอบสินค้าที่มี brand และมีความภักดีใน brand สูงมาก อีกทั้งของที่ใช้ต้องมีคุณภาพดี และที่สำคัญคือ มีขนาดใหญ่เหมาะกับการใช้งานของเขา ดังนั้นของที่จะเอาเข้าไปจำหน่ายควรมีคุณสมบัติร่วมอย่างที่บอกไปครับ และควรเน้นการสร้าง brand ให้เป็นที่จดจำให้ได้ อย่างน้อยเริ่มในวงแคบก่อนก็ยังดีครับ
กลุ่มประเทศยุโรป (EU) เป็นกลุ่มประเทศที่มีประวัติของชาติมายาวนาน มีการสั่งสมวัฒนธรรมมาเป็นเวลานาน ดังนั้นสิ่งของที่คนในกลุ่มนี้สนใจ จะเป็นลักษณะของที่เรียบง่าย สวยงาม เน้นสีที่ไม่ฉูดฉาดจัดจ้านจนเกินไป ที่สำคัญ ควรเป็นของที่บ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของเรา เช่นของตกแต่งบ้าน style ไทยประยุกต์ ที่ไม่เป็นไทยมากจนเกินไป มีลักษณะร่วมของสากลด้วย
ญี่ปุ่น ประเทศนี้อยู่ในเอเชียเหมือนเรา แต่มีการพัฒนาที่มากกว่า ทำให้มีศักยภาพในการซื้อ สินค้าที่มีราคาได้อย่างดี แต่สิ่งที่ต้องระวังในการขายสินค้า คือความเข้มงวดในการตรวจสอบคุณภาพสินค้า ดังนั้นสินค้าของเราจะต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ และต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอด้วย
สินค้าที่คนญี่ปุ่นชอบ จะเป็นสินค้าที่ใส่ความคิดสร้างสรรค์ ลงไปในตัวสินค้าด้วย โดยมีขนาดที่กะทัดรัดเหมาะกับการใช้งานของคนญี่ปุ่นด้วยครับ
เป็นอย่างไรบ้างครับ สำหรับการเริ่มต้นทำธุรกิจผ่านทาง Internet อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญที่สุดในการทำธุรกิจคือ ทำเล ลองหาตลาดที่เหมาะกับสินค้าของคุณ แล้วมาเริ่มบทที่ 2 ในเรื่อง Product หรือสินค้าที่เราควรขายผ่าน Internet กันครับ
ขอบคุณที่มา :: http://myidea.exteen.com/20060728/internet-1
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ::